วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

รักผู้อื่นคือบทพิสูจน์ของความถูกต้องของความมีศาสนา

ผมจะรู้สึกปลื้มใจทุกครั้งที่เห็นการช่วยเหลือกันระหว่างศาสนา ดังเช่นเหตุการณ์นี้เป็นวิกฤตการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดสกลนคร เป็นภาพของ พระราชวิสุทธินายก (พระมหาพรมมา จตฺตภโย) เจ้าคณะจังหวัดสกลนคร (ธ) ได้เดินทางไปมอบอาหารและน้ำดื่มแก่ชาวบ้านอำเภอท่าแร่ ซึ่งส่วนมากเป็นชุมชนชาวคริสต์อีกทั้งได้ปฏิสันถารกับบาทหลวงรูปหนึ่ง ซึ่งภาพดังกล่าวนี้ได้สะท้อนถึงการช่วยเหลือโดยมองข้ามสถานภาพหรือความเชื่อทางศาสนา แต่เป็นความเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์โดยแท้จริง

จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ จะเห็นได้ว่าหากเรามองศาสนาในแง่ของความเชื่อ ก็จะมีแต่การยึดมั่นในความเชื่อ และหากว่าผู้ใดเชื่อต่างจากตนแล้วไซร้ ก็จะพยายามเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้เชื่อเหมือนตนเอง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็จะมีแต่ความขัดแย้ง และไม่สามารถนำพาไปสู่สันติภาพได้


ถ้าหากพวกเราก้าวข้ามความเชื่อ โดยมองศาสนาในรูปแบบที่เป็นคำสั่งสอน ก็จะสมกับประโยคที่พูดกันจนชินหูว่า “ทุกศาสนาสอนคนให้เป็นคนดี” ซึ่งผมขอเรียบเรียงคำพูดใหม่ให้เข้าใจขึ้นว่า “คำสอนของศาสนาสอนคนให้เป็นคนดี“ ซึ่งคำสอนนี้เองจึงเป็นธรรมะที่จะนำพาไปสู่สันติภาพ สมดั่งคำของพระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินฺทปญฺโญ) หรือ ท่านพุทธทาสภิกขุ กล่าวไว้ว่า “ขอได้โปรดจำคำสามพยางค์นี้ไว้ด้วย ว่า “รักผู้อื่น”, สามพยางค์เท่านั้น; นั่นแหละคือบทพิสูจน์ของ ความถูกต้องของความมีศาสนา หรือมีธรรมะ. ถ้ายังไม่มีธรรมะไม่มีศาสนาตัวจริง จะไม่มีความรักผู้อื่น”