จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ จะเห็นได้ว่าหากเรามองศาสนาในแง่ของความเชื่อ ก็จะมีแต่การยึดมั่นในความเชื่อ และหากว่าผู้ใดเชื่อต่างจากตนแล้วไซร้ ก็จะพยายามเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้เชื่อเหมือนตนเอง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็จะมีแต่ความขัดแย้ง และไม่สามารถนำพาไปสู่สันติภาพได้
ถ้าหากพวกเราก้าวข้ามความเชื่อ โดยมองศาสนาในรูปแบบที่เป็นคำสั่งสอน ก็จะสมกับประโยคที่พูดกันจนชินหูว่า “ทุกศาสนาสอนคนให้เป็นคนดี” ซึ่งผมขอเรียบเรียงคำพูดใหม่ให้เข้าใจขึ้นว่า “คำสอนของศาสนาสอนคนให้เป็นคนดี“ ซึ่งคำสอนนี้เองจึงเป็นธรรมะที่จะนำพาไปสู่สันติภาพ สมดั่งคำของพระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินฺทปญฺโญ) หรือ ท่านพุทธทาสภิกขุ กล่าวไว้ว่า “ขอได้โปรดจำคำสามพยางค์นี้ไว้ด้วย ว่า “รักผู้อื่น”, สามพยางค์เท่านั้น; นั่นแหละคือบทพิสูจน์ของ ความถูกต้องของความมีศาสนา หรือมีธรรมะ. ถ้ายังไม่มีธรรมะไม่มีศาสนาตัวจริง จะไม่มีความรักผู้อื่น”
https://timeline.line.me/post/_dX1nX0PAv36Q91r2HJ2nVxUTIJW9hFI6ZxahTys/1149141084601085348
ตอบลบ