วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560

หลวงปู่ในความทรงจำของข้าพเจ้า พระครูมงคลญาณ (คำพอง ปญฺญาวุโธ) ละสังขารแล้ว

หลังจากที่ผมได้ตื่นเช้าตามปกติ ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเพื่อเช็คข่าวสารทาง Facebook เห็นข่าว เรื่องพระครูมงคลญาณ (คำพอง ปญฺญาวุโธ) หรือ หลวงปู่น้อยมรณภาพ ก็รู้สึกตกใจสะดุ้งลุกจากที่นอนทันที ด้วยความรู้สึกแรกที่ไม่เชื่อว่าหลวงปู่จะมรณภาพจริง ก็พยายามสำรวจข่าวจากสำนักอื่นๆ จนไปถึงเพจคณะพระธรรมยุต ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศข่าวเรื่องดังกล่าวเช่นกัน จึงทำให้ผมแน่ใจว่าหลวงปู่ได้มรณภาพจริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องน่าใจหายไม่น้อย ว่าพระมหาเถระที่ผมเคยอุปัฏฐาก เคยสนทนาธรรม จากไปโดยที่ผมไม่ได้ตั้งตัว ดังคำที่กล่าวว่า ความตายไม่เคยบอกวันเวลาจริงๆ
หากจะพูดถึงหลวงปู่น้อย ท่านเป็นพระมหาเถระรูปหนึ่งที่ผมพบเจอท่านบ่อยมาก ในงานของเครือข่ายพุทธธรรมกรรมฐาน แต่ก็ถือโอกาสจะเล่าให้ฟังในครั้งที่ได้อุปฐากท่านที่งานตักบาตรพระกรรมฐานที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งผมได้เข้าไปช่วยด้านนี้โดยเฉพาะเนื่องจากบุคลากรไม่เพียงพอ ผมได้เข้าไปถวายนวดท่าน หลวงปู่ท่านจึงถามในขณะที่นวดท่านว่า “เป็นหมอนวดบ่” สร้างความขบขันให้ผมมาก ท่านชวนคุยถามเรื่องที่เรียน ซึ่งขณะนั้นผมก็เรียนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่านบอกกับผมว่าท่านจะไปเทศน์ที่มหาวิทยาลัยให้ ซึ่งก็เป็นดังที่ผมตั้งใจไว้ หลวงปู่ได้เมตตามาเทศนา ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 ผมได้มีโอกาสถามปัญหากับหลวงปู่อีกครั้งหนึ่งว่า
ผม:จะวางใจอย่างไรดีครับ เมื่อแบบว่าอยู่ใกล้กับคนที่เราไม่ค่อยชอบครับผม
หลวงปู่ : หึๆ
ผม:บางทีมันก็รู้สึกเครียดแค้นครับ ก็พยายามหยุดความคิดตรงนั้นครับ
หลวงปู่ : หนึ่งก็อย่าเข้าไปไกล้ อย่าเห็นหน้า
ผม:แต่เขาเข้ามาใกล้อะครับ
หลวงปู่ : เข้ามาใกล้ก็หลบๆหน่อย ถ้ามีที่หลบก็หลบ ถ้าหลบไม่ได้ก็ต้องทำใจ
หลวงปู่ : เราไม่ชอบ คนที่(รู้สึก)ไม่ชอบน่ะเป็นทุกข์เหมือนกันนะไม่ใช่ว่าดีนะ คนโกรธผู้อื่นไม่ชอบผู้อื่นเป็นทุกข์นะไม่ใช่มีความสุขนะ บางทีเขาอยู่เฉยๆตัวเราเองก็ไม่ชอบ ทุกข์อยู่ที่ไหน ก็อยู่กับคนที่(รู้สึก)ไม่ชอบนั่นเอง
ผมก็ได้พบหลวงปู่ครั้งสุดท้ายในช่วงปลายเดือนเมษายน ที่งานตักบาตรพระกรรมฐาน ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมได้มีโอกาสถวายกากยาส้ม หรือ ยารัดเหงือก ซึ่งเป็นยาสีฟันโบราณ และ น้ำชา แด่หลวงปู่แต่เนื่องจากผมต้องยุ่งอยู่กับการชงน้ำชาจึงไม่ได้มีโอกาสอุปัฏฐากหลวงปู่เลย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ผมไม่คาดฝันเหมือนกันว่าอีกสี่เดือนต่อมาหลวงปู่จะถึงแก่มรณภาพในช่วงระหว่างเข้าพรรษาที่ท่านจะเดินทางกลับสหรัฐอเมริกา ซึ่งปกติแล้วหลวงปู่จะอยู่วัดใหม่เสนาในช่วงที่ไม่ได้อยู่ในฤดูพรรษา เพื่อรักษาธาตุขันธ์
หลวงปู่ท่านเป็นพระมหาเถระรูปหนึ่งในความทรงจำของผมที่ผมประทับใจในความสุขุมลุ่มลึก ความเมตตาที่มีให้แก่คนที่ไม่ถึงฝั่งอย่างผม จึงขอน้อมหลวงปู่สู่พระนิพพาน กรรมใดที่ผมได้กระทำต่อหลวงปู่ด้วยกายวาจาใจก็ดี ด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี ขอน้อมกราบขอขมาหลวงปู่ด้วยเศียรเกล้า